ผลทดสอบ
1) ยางมิชลิน อี-ไพรมาซี่ เส้นใหม่จะมีแรงต้านทานการหมุนของล้อต่ำกว่ายางคู่แข่งเฉลี่ยอยู่ที่ 2.6 กิโลกรัมต่อตัน ซึ่งเทียบเท่ากับการลดความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้ถึง 0.42 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร (9.7%) หรือการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 9.8 กรัม สำหรับรถโตโยต้า คัมรี รุ่นไฮบริด เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร
2) ระหว่างการใช้งาน ยางมิชลิน อี-ไพรมาซี่ จะมีแรงต้านทานการหมุนของล้อต่ำกว่ายางคู่แข่งเฉลี่ยอยู่ที่ 2.6 กิโลกรัมต่อตัน (แรงต้านทานการหมุนของล้อจะคงที่ตลอดช่วงอายุการใช้งานยาง) ซึ่งเทียบเท่ากับการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงถึง 443 กรัม (9.7%) โดยประเมินจากฐานเฉลี่ยเมื่อใช้ยางเส้นใหม่วิ่งเป็นระยะทาง 45,000 กิโลเมตร ทั้งนี้ การสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอาจแตกต่างออกไป ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ ตลอดจนรถยนต์และแรงดันลมยางที่ใช้
3) ยางมิชลิน อี-ไพรมาซี่ มีแรงต้านทานการหมุนของล้อต่ำกว่ายางของคู่แข่งชั้นนำ 29.1% แหล่งที่มา: การทดสอบแรงต้านทานการหมุนของล้อ ซึ่งจัดทำโดยศูนย์วิจัยและเทคโนโลยียานยนต์แห่งประเทศจีน (CHINA AUTOMOTIVE TECHNOLOGY AND RESEARCH CENTER: CATARC) ตามคำขอของมิชลิน ในเดือนกันยายน 2563 อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างออกไป ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ รถยนต์ที่ใช้ และสภาพดอกยาง
4) ยางมิชลิน อี-ไพรมาซี่ มีอายุความทนทานต่อการสึกหรอเหนือกว่าคู่แข่ง 18.3% แหล่งที่มา: การทดสอบการสึกหรอ ซึ่งจัดทำโดยศูนย์วิจัยและเทคโนโลยียานยนต์แห่งประเทศจีน (CHINA AUTOMOTIVE TECHNOLOGY AND RESEARCH CENTER: CATARC) ตามคำขอของมิชลิน ระหว่างเดือนสิงหาคม-ตุลาคม 2563 อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างออกไป ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ รถยนต์ที่ใช้ และสภาพดอกยาง